ทรัสต์ PROSPECT โชว์ผลงาน Q4/63 โดดเด่นท่ามกลาง COVID-19 ชูอัตราเช่าพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานเพิ่มเป็น 95% หลังลูกค้าเดิมทยอยต่อสัญญา-ขยายฐานลูกค้าใหม่ ประกาศจ่ายประโยชน์ตอบแทนอัตรา 0.2805 บาทต่อหน่วย สอดคล้องกับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่มูลค่า 10.0594 บาท พร้อมศึกษาลงทุนทรัพย์สินใหม่ในปี 64

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ PROSPECT โชว์ผลงานไตรมาส 4/2563 โดดเด่น แม้มีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ดันอัตราเช่าพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานเพิ่มขึ้นเป็น 95% สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า จากการเพิ่มผู้เช่าใหม่อีก 10 ราย และต่อสัญญากับผู้เช่าเดิม ในรอบปีที่ผ่านมาสูงกว่า 80% บอร์ดอนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทนในอัตรา 0.2805 บาทต่อหน่วย พร้อมศึกษาความเป็นไปได้เข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินใหม่

นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ PROSPECT เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/ 2563 กองทรัสต์ PROSPECT ซึ่งมีทรัพย์สินประเภทอาคารคลังสินค้าและโรงงานสำเร็จรูป ในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนหรือ Bangkok Free Trade Zone (BFTZ) ย่านบางนา-ตราด กิโลเมตร ที่ 23 คิดเป็นพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 2.2 แสนตารางเมตร ยังคงมีผลการดำเนินที่ดี แม้อยู่ในช่วงที่มีสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทั่วโลก

สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของกองทรัสต์ฯ ณ สิ้นไตรมาส 4/2563 มีอัตราการเช่าพื้นที่ 95% เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้เซ็นสัญญากับผู้เช่าใหม่เพิ่มขึ้นอีก 10 ราย คิดเป็นพื้นที่เช่ารวมประมาณ 14,000 ตารางเมตร โดยมีทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น ที่ดำเนินธุรกิจอุปกรณ์ทางการแพทย์ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ได้ขยายการลงทุนมายังประเทศไทย ในขณะเดียวกันก็สามารถต่อสัญญากับผู้เช่าเดิมได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีอัตราการต่อสัญญาของผู้เช่าเดิมในรอบปีที่ผ่านมาสูงกว่า 80%

“ปัจจุบันเรามีรายชื่อลูกค้าที่แสดงความต้องการเช่าพื้นที่อีกกว่า 30 ราย เนื่องจากคลังสินค้าและโรงงานของกองทรัสต์ฯ ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ และมีพื้นที่เขตปลอดอากรหรือ Free Zone ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ประกอบกับเรามีลูกค้าที่กระจายตัวอยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย จึงแทบไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา” นางสาวอรอนงค์ กล่าว

นางสาวอรอนงค์ กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานที่ดี ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยล่าสุด มีมูลค่าถึง 10.0594 บาท และเติบโตอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทนจากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2563 แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ อัตรารวม 0.2805 บาทต่อหน่วย โดยจะปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทน (Book Closing Date) ในวันที่ 3 มีนาคมนี้ และกำหนดจ่ายประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 15 มีนาคม 2564

ทั้งนี้ กองทรัสต์ฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินใหม่ ประเภทคลังสินค้า โรงงานและศูนย์โลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มจำนวนสินทรัพย์สร้างรายได้ที่มั่นคงแก่กองทรัสต์ นอกเหนือไปจากโครงการที่พัฒนาโดย บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด อีก 2 โครงการคือ BFTZ2 บนถนนเทพารักษ์ และ BFTZ3 บนถนนบางนา-ตราด กม.19

ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมคลังสินค้าและโรงงานในปี 2564 มั่นใจว่าจะมีความต้องการเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการแผนขยายการลงทุนหรือย้ายฐานการผลิตในบางอุตสาหกรรม เนื่องจากมีอุตสาหกรรมบางประเภท อาทิ ธุรกิจอุปกรณ์ทางการแพทย์ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ ฯลฯ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่การนำเข้าและส่งออกสินค้ายังดำเนินการได้ตามปกติ รวมถึงต้องติดตามปัญหาการเมืองในเมียนมาจะส่งผลให้เกิดเคลื่อนย้ายฐานการผลิตในอนาคตหรือไม่

“เรามั่นใจว่า ในปีนี้กองทรัสต์ฯ จะสามารถทำผลการดำเนินงานและจ่ายประโยชน์ตอบแทนที่น่าพอใจแก่ ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยในช่วงไตรมาสแรกนี้มีผู้เช่าเดิมที่ทยอยหมดสัญญา 13 ราย คิดเป็นพื้นที่เช่ารวมกว่า 13,000 ตารางเมตร ในจำนวนนี้เราต่อสัญญาเช่าได้แล้ว 11 ราย และรายที่เหลืออยู่ระหว่างเจรจา ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวในกองทรัสต์เพื่อรับผลตอบแทนจากเงินปันผล จึงมั่นใจกองทรัสต์ PROSPECT จะเป็นทางเลือกที่ดี” นางสาวอรอนงค์ กล่าว